|
 |
 |
hai student experience in France ประสบการณ์นักศึกษาไทยในฝรั่งเศส |
|
|
 |
นิคม สุวรรณวร |
 |
 |
อายุ 26 ปี |
สถาบันการศึกษาและสาขาวิชา |
โรงเรียนวิศวกรรมศาสตร์ ESME-Sudria : สาขา Technologie émergente (Intelligence Artificielle) |
มหาวิทยาลัยปารีส : D.E.A. สาขาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Système électronique et traitement dinformation) |
|
 |
เหตุผลที่เลือกไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส |
เป็นประเทศหนึ่งที่มีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีขั้นสูง และเชื่อว่า เป็นประเทศที่สามารถนำเอาเทคโนโลยีเหล่านั้นมาผสมประสานเข้ากับความเป็นดั้งเดิมทางด้านวัฒนธรรม ประเพณีและชีวิตความเป็นอยู่ได้อย่างกลมกลืน |
 |
การเตรียมตัว |
- การเตรียมตัวทางด้านภาษาฝรั่งเศส เมื่อคุณเข้าใจภาษาได้ดีคุณก็จะสามารถเข้าใจในสิ่งที่ต้องการจะเรียนรู้ได้ดีเช่นกัน |
- การทบทวนความรู้ความสามารถเฉพาะทางในสาขาที่เคยเรียน มาแล้ว ทั้งนี้เพื่อให้สามารถปะติดปะต่อกับเนื้อหาที่จะเรียนรู้ได้เร็วขึ้น |
- เตรียมตัวยอมรับ และเข้าใจในเรื่องของความแตกต่างทางวัฒนธรรม |
 |
ขั้นตอนการสมัครเข้าเรียน |
เลือกโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่มีการเรียนการสอนในสาขาเฉพาะ
ที่ตนเองต้องการ และดำเนินการตามขั้นตอนของโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยนั้น ๆ |
 |
หลักสูตรการศึกษา |
การเรียนที่ ESME-Sudria จะมีการฝึกงานเป็นระยะเวลาสองเดือนครึ่ง ซึ่งในครั้งนี้ผมได้พัฒนาซอฟแวร์ระบบการเงินให้กับหน่วยงานที่ชื่อว่า Maison Notre-Dame ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งซอฟแวร์ดังกล่าวสามารถนำไปใช้งาน
ได้จริง ซึ่งในช่วงเวลานั้น ผมได้ค่าที่พัก อาหาร ฟรี พร้อมค่าเหนื่อยเล็ก ๆ น้อย ๆ สืบเนื่องจากการฝึกงานดังกล่าวข้างต้น ทางหน่วยงาน Maison Notre-Dame เสนอโครงการใหม่ให้ผมทำ ซึ่งเป็นการพัฒนาซอฟแวร์ที่ต่อเนื่องจากซอฟแวร์ที่ได้พัฒนาไปแล้วข้างต้น โดยจะได้รับค่าจ้างเป็นโครงการ ๆ ไป |
 |
การปรับตัว |
การปรับปรุงตัวเองมีด้วยกัน 3 ด้านหลัก ๆ คือ |
- วิธีการเรียนรู้ เป็นการปรับปรุงตัวเองเพื่อให้มีความสามารถในการ เรียนรู้ให้ทันกับนักเรียนฝรั่งเศส และมีประสิทธิภาพ อันได้แก่ การเรียนรู้ด้วยตัวเอง และการเรียนโดยรวมกลุ่มกับนักศึกษาฝรั่งเศส |
- เนื่องจากระบบการศึกษาที่แตกต่าง เนื่องจากระบบการศึกษาใน ประเทศไทยและประเทศฝรั่งเศสในสาขาที่ผมมาเรียนนั้น มีความแตกต่างทางด้านเนื้อหาในบางส่วนค่อนข้างมาก ดังนั้นการเรียนจึงต้องเป็นการเรียนควบคู่ไปของเนื้อหาปัจจุบันและเนื้อหาของปีก่อนหน้านั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการปรับระดับความรู้พื้นฐานให้ทัดเทียมกับนักศึกษาฝรั่งเศส ซึ่งจำเป็นมากสำหรับการ
เรียนรู้ในสิ่งใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกัน |
- ทางสังคม ในระบบการเรียนที่มีเนื้อหาและงานค่อนข้างมาก การเรียนโดยกลุ่มจึงจำเป็นมาก ๆ สำหรับที่จะร่นระยะเวลาในการเรียนรู้ และได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าทำคนเดียว ดังนั้น การปรับตัวให้เข้ากับการทำงาน ของ
นักศึกษาฝรั่งเศสจึงจำเป็นมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความยอมรับ ของตัวเราให้เกิดขึ้นในกลุ่มนักศึกษาดังกล่าว |
 |
 |
ธนะชัย วชิระวรกรรม |
 |
อายุ 27 ปี |
สถาบันการศึกษาและสาขาวิชา |
กฎหมายระหว่างประเทศ ระดับปริญญาเอก (ระหว่างจัดทำวิทยานิพนธ์) มหาวิทยาลัยปารีส 1 (ป็องเตอง-ซอร์บอนน์) Université de Paris 1 (Panthéon-Sorbonne) Préparation du diplôme de doctorat en droit (Droit international) |
|
 |
เหตุผลที่เลือกไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส |
เริ่มแรกได้เรียนภาษาฝรั่งเศสขณะศึกษาระดับมัธยมปลาย รักชอบภาษานี้ ทำให้เลือกสอบชิงทุนรัฐบาลไปศึกษาต่อที่ฝรั่งเศส ประกอบกับทุนที่เลือกสอบเป็นทุนที่ให้ศึกษาวิชานิติศาสตร์ซึ่งเป็นวิชาขึ้นชื่อ (ตามที่ร่ำลือกัน) ของประเทศเมืองน้ำหอม |
 |
การเตรียมตัว |
ตอนเรียนมัธยมปลาย ได้เรียนภาษาฝรั่งเศสแล้ว ทั้งที่โรงเรียน และที่ Alliance française จึงไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากทางด้านภาษาก่อนออกเดินทาง ส่วนตอนมาอยู่ที่ฝรั่งเศสปีแรก ก็เข้าเรียนภาษาฝรั่งเศสต่ออีก สำหรับการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยด้านอื่น ๆ ก็ไม่มีอะไรพิเศษมาก เพียงแต่ปีแรก ขณะกำลังเรียนภาษา ถ้ามีโอกาส โดยเฉพาะสำหรับคนที่จะมาเรียนกฎหมาย หรือศึกษาต่อด้านศิลปศาสตร์อื่น ๆ ผมขอแนะนำให้คนที่จะมาศึกษาต่อลองเข้าไปนั่งเรียนวิชาที่เราสนใจ ที่เราอาจจะได้เรียนในปีถัดไป ทำให้เกิดความคุ้นเคยกับภาษา หรือการฟัง เพราะความคุ้นเคยเป็นปัจจัยสำคัญในการเรียนรู้ภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาฝรั่งเศส หรือภาษาต่างชาติอื่น ๆ (แน่นอนว่าการเข้าไปนั่งฟังควรเลือกวิชาที่ใช้ห้องเรียนรวมใหญ่ เราจะได้ไม่ต้องขออนุญาตเป็นพิเศษ) |
 |
ขั้นตอนการสมัครเข้าเรียน |
สมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง ตามกระบวนการที่คนต่างชาติที่
ไม่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ต้องทำ คือสมัครสอบภาษา เพื่อให้ได้คะแนนที่มหาวิทยาลัยที่เลือกจะนำมาเป็นตัวพิจารณาการรับเข้า |
 |
หลักสูตรการศึกษา |
สำหรับการเรียนแผนกศิลป์ เช่น สาขานิติศาสตร์ ต้องฝึกเขียนภาษาให้คล่อง และรวดเร็ว เพราะวิธีการสอบที่ประเทศนี้ จะเป็นข้อสอบอัตนัยเกือบหมด พร้อมกับการจำกัดเวลาสอบ ไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ ให้คนที่ไม่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ ไม่ว่าจะเป็นวิชาบังคับ หรือวิชาเลือก สำหรับวิชาแบบหลังนี้
บางทีก็จะมีการสอบปากเปล่า เพราะฉะนั้นก็ต้องหัดพูดให้คล่องเช่นกัน ที่สำคัญคือต้องกล้าพูด กล้าแสดงออกความคิดเห็นของเราตามสิ่งที่ได้เรียนและ/หรือค้นคว้ามา |
สำหรับเรื่องกฎ ข้อบังคับการสอบนั้น ผมขอให้ข้อสังเกตที่น่าสนใจ
ข้อหนึ่ง ดังนี้ ในมหาวิทยาลัยบางแห่ง อาจมีกฎผ่อนผันให้นักศึกษานำเอาพจนานุกรมเข้าไปในห้องสอบได้ (น้อยมาก ตั้งแต่ผมเรียนมาเกือบสิบปี เคยมีการอนุญาตแบบนี้เพียงครั้งเดียว !) อย่างไรก็ตาม การนำเอกสารเข้าห้องสอบ ต้องได้รับการอนุญาตจากอาจารย์สอนวิชาที่สอบ เพราะฉะนั้น ควรสอบถามให้แน่ใจก่อนถึงวันสอบ |
 |
การปรับตัว |
การจากบ้านมาอยู่ประเทศอื่นก็ต้องปรับตัวเป็นธรรมดา สำหรับประเทศฝรั่งเศสแล้ว ที่สำคัญคือต้องกล้าพูด กล้าแสดงออก มีอะไรต้องการต้องพูด ต้องขอ ซึ่งวิถีชีวิตแบบนี้ค่อนข้างแตกต่างจากวัฒนธรรมไทยแบบดั้งเดิม
ประเทศนี้ขึ้นชื่อว่า ถ้าไม่ตะโกนบ่นร้องขอก็จะไม่ได้อะไร ซึ่งก็เป็นจริงอยู่ส่วนมากในชีวิตประจำวัน และในชีวิตนักศึกษา |
 |
สุดาวดี จันทร์ภิวัฒน์ |
 |
 |
อายุ 23 ปี |
สถาบันการศึกษาและสาขาวิชา |
อักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัย Toulouse Le Mirail |
|
 |
เหตุผลที่เลือกไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส |
เรียนเอกฝรั่งเศส และสาขานี้มาก่อน
อยู่แล้ว คิดว่าการที่ได้มาเรียนที่ประเทศที่เป็นเจ้าของภาษาจะเป็นการดีกว่า ถึงแม้ว่าค่าครองชีพจะสูงกว่าประเทศอื่น ๆ ที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส และที่เลือกเรียนด้านอักษรศาสตร์ต่อก็เพราะมีใจรักทางด้านนี้และมีความตั้งใจที่จะเป็นอาจารย์
ทางสาขานี้หลังจากสำเร็จการศึกษา |
 |
การเตรียมตัว |
การเตรียมตัวในการเข้ามหาวิทยาลัยที่เมืองไทยก็คงเหมือนนักเรียน
ทั่ว ๆ ไป คือ อ่านตำราเพื่อสอบ Entrance และหาข้อมูลเกี่ยวกับสาขาที่อยากเรียนเพื่อที่จะได้รู้ว่าตนเองสนใจและถนัดทางด้านนี้จริงหรือไม่ และมากน้อยเพียงไร ส่วนการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยที่ฝรั่งเศสก็คือ หาข้อมูล
เกี่ยวกับสาขาที่จะเรียนหลาย ๆ มหาวิทยาลัยเพราะแต่ละที่หลักสูตรก็
แตกต่างกัน หลังจากนั้นก็เลือกมหาวิทยาลัยที่สนใจ และอ่านหนังสือ
เตรียมตัวก่อนไปเรียนบ้างเพราะที่มหาวิทยาลัยที่ตนเองกำลังศึกษาอยู่มี
web site ที่บอกรายวิชาและรายชื่อหนังสือที่ใช้ประกอบการเรียน |
 |
ขั้นตอนการสมัครเข้าเรียน |
หาข้อมูลจากทาง internet แล้วปฏิบัติตามกฎของมหาวิทยาลัยที่สนใจอย่างเคร่งครัด ขั้นแรกคือการแปลเอกสารที่ทางมหาวิทยาลัยต้องการและเขียนจดหมายไปยังมหาวิทยาลัยที่สนใจเพื่อขอใบสมัคร หลังจากกรอกเอกสารพร้อมแนบเอกสารที่จำเป็นครบถ้วนและส่งไป แล้วก็รอผลจากทางมหาวิทยาลัย เราสามารถส่งใบสมัครไปหลาย ๆ ที่พร้อมกันได้ เพื่อป้องกันการผิดพลาดและเราสามารถเปรียบเทียบคำตอบที่ส่งกลับมาของแต่ละมหาวิทยาลัยได้
อีกด้วย บางที่อาจจะอนุญาตให้เข้าศึกษาต่อขั้นที่เราสมัครได้ บางที่อาจจะต้องซ้ำ แล้วแต่การเทียบรายวิชาของแต่ละมหาวิทยาลัย นักเรียนต่างชาติควรรีบจัดการล่วงหน้าก่อนมหาวิทยาลัยเปิด 4-5 เดือน |
 |
หลักสูตรการศึกษา |
วรรณคดีฝรั่งเศสและภาษาศาสตร์ ภาษาฝรั่งเศสโบราณและภาษา
ลาติน |
 |
การปรับตัว |
ควรมีความรู้ทางวัฒนธรรมพื้นฐานของประเทศฝรั่งเศสบ้างก่อนไปศึกษาต่อเพื่อจะได้ปรับตัวและคุ้นเคยได้ง่ายขึ้นโดยอาจจะหาได้จากหนังสือทั่ว ๆ ไปและควรทำความเข้าใจกับตัวเองก่อนว่าเรากำลังจะไปศึกษาต่อต่างประเทศซึ่งหมายความว่าต่างภาษาและต่างวัฒนธรรม ไม่ควรยึดติดกับสิ่งที่เคยทำตอนที่อยู่เมืองไทย ยอมรับและเปิดใจให้กว้างที่จะรับประสบการณ์ใหม่ ๆ |
 |
ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม |
ในการดำเนินการเรื่องศึกษาต่อที่ประเทศฝรั่งเศส ควรระมัดระวังและรอบคอบเรื่องข้อมูลที่ได้รับ และเตรียมเอกสารที่ทางมหาวิทยาลัยต้องการ
ให้ครบถ้วนเพราะที่ฝรั่งเศสค่อนข้างเคร่งครัดในเรื่องนี้ |
 |
 |
ปิยพร ภู่ธนพันธ์ |
 |
อายุ 22 ปี |
สถาบันการศึกษาและสาขาวิชา |
ปริญญาโท (2e cycle) IEP Paris (Institut dEtudes Politiques de Paris) |
|
 |
เหตุผลที่เลือกไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส |
เลือกเรียนสายศิลป์ภาษาฝรั่งเศสเพราะสนใจภาษาต่างประเทศ และตั้งใจที่ไปศึกษาต่อที่ประเทศฝรั่งเศสด้านรัฐศาสตร์
เนื่องจากมีสถาบันเฉพาะด้านที่มีชื่อเสียง อีกทั้งฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มี
ความสำคัญทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม รวมถึงบทบาทที่ไม่อาจมองข้ามได้ในสหภาพยุโรป ดังนั้น การศึกษาต่อนี้จะทำให้เข้าใจประเทศฝรั่งเศส
ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ฝึกฝนภาษาให้ลึกซึ้ง และนำไปใช้
ประโยชน์ต่อไป |
 |
การเตรียมตัว |
เตรียมตัวประการแรกโดยเรียนภาษาที่มหาวิทยาลัยประมาณ 6 เดือน เพื่อฝึกฝนภาษาให้ดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็ลงทะเบียน Auditeur libre เพื่อ
เข้าฟังในห้องบรรยายรวมเพื่อให้เกิดความเคยชิน อีกทั้งสอบวัดระดับภาษาด้วย |
 |
ขั้นตอนการสมัครเข้าเรียน |
เริ่มจากขอใบสมัครจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทางจดหมาย หรือพิมพ์จากเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต ศึกษาหลักสูตร และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสอบภาษา หรือสัมภาษณ์ของมหาวิทยาลัย |
 |
หลักสูตรการศึกษา |
การเรียนการสอนโดยทั่วไปคล้ายกับการเรียนในมหาวิทยาลัยที่ประเทศไทย ทั้งนี้นักศึกษาจะต้องค้นคว้าด้วยตนเองเป็นหลัก อาจารย์เป็นผู้แนะ
แนวคิดประเด็นหลัก ๆ และเสริมในส่วนที่ขาดตกบกพร่อง |
 |
การปรับตัว |
- การเรียนฝึกฝนให้คิดอย่างเป็นระบบ และค้นคว้าด้วยตนเอง
อย่างมาก |
- เปิดให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเต็มท |
 |
ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม |
หากได้พักกับครอบครัวชาวฝรั่งเศส จะช่วยพัฒนาภาษาได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งเป็นโอกาสอันดีที่นักศึกษาไทย ได้เรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมประเพณีอันหลากหลายของชาวฝรั่งเศส |
 |
พยุรินทร์ สวัสดิ์รณภักดิ์ |
 |
 |
อายุ 21 ปี |
สถาบันการศึกษาและสาขาวิชา |
บริหารการจัดการ Diplôme dEtudes Supérieures Spécialisées, Certificat dAptitude dAdministration des Entreprises (DESS CAAE) |
สถาบันบริหารธุรกิจ Institut dAdministration des Entreprises de Nantes (IAE) |
|
 |
เหตุผลที่เลือกไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส |
แรกเริ่มสนใจในระบบการศึกษาของยุโรปอยู่แล้ว ประเทศฝรั่งเศส
ตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางธุรกิจของยุโรป มีบทบาทสำคัญและเจริญเติบโตขึ้น
อย่างรวดเร็ว และสนใจด้านบริหารธุรกิจเพราะจบสาขานี้ และเห็นว่า
ความเป็นไปได้ของการบริหารธุรกิจที่กำลังขยายตัวไปทั่วโลก |
 |
การเตรียมตัว |
เรียนภาษาฝรั่งเศส 3 หลักสูตร ตั้งแต่เดือนกันยายน 2544 ถึงพฤษภาคม 2545 รวมแล้วเป็นเวลา 8 เดือน การเรียนเน้นทักษะในการฟัง พูด อ่าน และเขียน ในหลักสูตรสุดท้ายได้มีการพูดถึงหัวข้อเศรษฐกิจและการเมือง
ทั่วโลกซึ่งต้องใช้ทักษะในการอ่านมากขึ้น |
 |
ขั้นตอนการสมัครเข้าเรียน |
ดิฉันส่งใบสมัครไปที่มหาวิทยาลัยในช่วงต้นเดือนเมษายน มีการสอบ
ข้อเขียนและสัมภาษณ์กับครูผู้สอนชาวฝรั่งเศส 2 คน |
 |
หลักสูตรการศึกษา |
หลักสูตรนี้แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ (การ
ฝึกงาน) นักศึกษาชาวจีนจะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม D ซึ่งใช้เวลาเรียนภาคทฤษฎีนานกว่ากลุ่มอื่น ๆ 2 เดือน อย่างไรก็ตาม การฝึกงานภาคปฏิบัติใช้เวลาน้อยกว่า 2 เดือน |
 |
การปรับตัว |
ไม่มีปัญหาในการใช้ชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ยกเว้นในเรื่องภาษา เพราะเคยมีประสบการณ์ในต่างประเทศมาบ้างแล้ว เราจำเป็นต้องเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น เพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตในประเทศฝรั่งเศส เราควรจะเปิดใจเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ |
 |
ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม |
นักเรียนควรจะเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และพยายามพูดคุยกับชาวฝรั่งเศส เพื่อที่จะเรียนภาษาอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี นักศึกษาควรจะมีความรับผิดชอบ ขยันทำการบ้านมากขึ้นด้วย ซึ่งการฝึกฝนนี้จะช่วยพัฒนาทักษะการใช้ภาษาฝรั่งเศสให้ดีขึ้นอย่างมาก |
 |
 |
รุจิรา สายทอง |
 |
อายุ 23 ปี |
สถาบันการศึกษาและสาขาวิชา |
มหาวิทยาลัยอองเช่ร์ (Université dAngers) |
การจัดการการโรงแรม (Hospitality Management) |
|
 |
เหตุผลที่เลือกศึกษาต่อในฝรั่งเศส |
เพราะฝรั่งเศสเป็นประเทศที่รองรับนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก และยังเป็นประเทศที่อยู่ใจกลางยุโรป สามารถเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศ
ใกล้เคียงซึ่งล้วนแต่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ฝรั่งเศสเองก็เป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมซึ่งน่าเรียนรู้เป็นอย่างมาก |
ประเทศไทยกำลังก้าวหน้าและพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งแต่ละปีทำรายได้ให้กับประเทศไทยเป็นจำนวนมาก อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจึงมีที่ว่างให้ทำงานมากมาย |
ชอบติดต่อพูดคุยกับผู้คนต่าง ๆ กัน รู้สึกสนใจที่จะเรียนรู้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก |
 |
การเตรียมตัว |
ไม่มากนัก เพราะพูดภาษาฝรั่งเศสได้อยู่แล้ว เพียงแต่ส่งใบสมัครและรอผล ขอวีซ่าซึ่งต้องแปลเอกสารบางอย่างเป็นภาษาฝรั่งเศส เช่น สูติบัตรและบัตรประชาชน |
 |
ขั้นตอนการสมัครเข้าเรียน |
ส่งจดหมายแนะนำตัวและขอใบสมัคร เมื่อได้รับก็กรอกและส่งกลับไปพร้อมกับ C.V. และ Motivation Letter รออยู่ประมาณ 1-2 เดือนก็ได้รับจดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นจึงเตรียมเรื่องขอ Student Visa |
 |
หลักสูตรการศึกษา |
เรียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด Lecture, Personal Work, Report รวมทั้งหมด 9 เดือน ได้เรียนกับ Visiting professors ซึ่งมาจากหลายประเทศ เช่น เบลเยี่ยม, อเมริกา, ออสเตรเลีย น่าสนใจมาก เพราะได้เรียนรู้จากหลาย ๆ มุมมองของอาจารย์แต่ละท่าน วิชาที่มีอาจารย์รับเชิญมาจากที่อื่นมักน่าสนใจ แต่น่าเสียดายที่ได้เรียนเพียงวิชาละครั้งสองครั้งเท่านั้น ส่วนวิชาที่เรียน
กับอาจารย์ประจำ (อาจารย์ฝรั่งเศส) น่าสนใจเช่นกัน เช่น Wine Testing,
Chโteaux ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของเมืองที่ไปเรียนและต้องทำ Thesis เป็นภาษาฝรั่งเศสหรือภาษาอังกฤษตอนจบการศึกษาด้วย สำหรับการฝึกงานหรือ Internship ไม่บังคับ จะทำหรือไม่ทำก็ได้ ฝึกอยู่ 2 เดือนที่แคมปิ้ง 4 ดาวในเมืองใกล้ ๆ เจ้าของเป็นชาวเนเธอร์แลนด์ทำให้ได้ใช้ภาษาอังกฤษกับเจ้าของและลูกค้าตลอดเวลา เป็นงานที่สนุกและน่าสนใจ แต่อาจจะทำงานหนักถึง 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ |
เนื่องจากเป็นโปรแกรมนานาชาติ นักเรียนทั้งหมดจึงเป็นชาวต่างชาติ
เช่น จีน อินเดีย ศรีลังกา อเมริกัน ออสเตรเลีย เกาหลี และไทย ทำให้มีโอกาสรู้จักผู้คนจากหลายชาติซึ่งเป็นประโยชน์มากเพราะในอาชีพเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เราต้องทำงานกับคนหลาย ๆ ชาติและต้อง
เรียนรู้ซึ่งกันและกัน น่าเสียดายที่มีการติดต่อกับนักเรียนชาวฝรั่งเศสน้อย
หากไม่เข้าร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนจัดหรือนักเรียนฝรั่งเศสจัดก็จะไม่มีโอกาส
ได้รู้จักเลย |
 |
การปรับตัว |
สำหรับการปรับตัวไม่ยากนัก หากเราเปิดใจให้กว้าง |
 |
ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม |
อย่ากังวลว่าชีวิตในฝรั่งเศสจะแพง เพราะจริง ๆ แล้ว ค่าเล่าเรียนถูกมาก ในฐานะที่เราเป็นนักเรียน รัฐบาลฝรั่งเศสจะให้ความช่วยเหลืออย่างมากเช่น ค่าที่พัก ซึ่งเราจะได้คืนเกือบ 40% ค่าเดินทางทางรถไฟ ถ้าเราอายุน้อยกว่า 26 ปี จะได้ส่วนลด 25% ยิ่งถ้าเราทำตั๋วลดราคา ก็จะลดได้ถึง 50% ค่าโดยสารรถจะมีตั๋วนักเรียนซึ่งราคาถูกกว่าราคาธรรมดามาก สำหรับค่า
อาหารกลางวัน เราต้องยอมรับว่าตามร้านอาหารจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่เราสามารถทานมื้อกลางวันได้ที่ Restaurant Universitaire มื้อหนึ่งเพียง 2.50 ยูโรเท่านั้น สำหรับมื้อเช้า หากอยากจะทานข้าวก็คงยุ่งยากนิดหน่อย แต่ถ้าเราดื่มนมกับซีเรียลเหมือนฝรั่งก็จะง่ายและสะดวกกว่า เราควรเปิดใจให้กว้าง มองอะไรกว้าง ๆ คนฝรั่งเศสต่างกับคนไทย แต่ถ้าเราเตรียมตัวให้พร้อมกับสิ่งใหม่ก็จะมีความสุขเพราะผู้คนค่อนข้างน่ารัก |
เราต้องตั้งใจเรียน แต่ต้องไม่ลืมศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมฝรั่งเศสด้วย ควรใช้ชีวิตให้คุ้มค่าเพราะประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มั่งคั่งในหลาย ๆ ด้าน อย่าลืมไปดูและเรียนรู้มัน |
|